ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา 
ณ วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ 
ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา
(Phra Nakon Si Ayutthaya City Pillar
Shrine)         
ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา
ในปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  
ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา เป็นสถาปัตยกรรมไทย
มณฑปจตุรมุขทรงไทยรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่ออิฐฉาบปูนขาว มีประตูเข้า-ออกทั้ง ๔
ด้าน  ส่วนของอาคารศาลหลักเมืองมีบันไดขึ้นลงเพียง ๓ ด้าน
ด้วยมีการก่อสร้างอาคารที่ประทับไว้ทางด้านทิศตะวันตก หลังคาเป็นยอดปรางค์ประดับฝักเพกา
(ลำภุขัน) มีลักษณะคล้ายวชิราวุธอันเป็นอาวุธของพระอินทร์นำมาซ้อนกัน ๓ ชั้น
เสาหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา ทำจากไม้มงคลชัยพฤกษ์
ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวแก้วซ้อนกัน ๗ ชั้น ส่วนของเสาหลักเมือง
ฐานเสาสูงจากอาคารชั้นล่างขึ้นมาอาคารชั้นบนที่ทำกระจกแก้วครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง
พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
 หลายฉบับกล่าวความต้องกันว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (
พระเจ้าอู่ทอง)  ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ขึ้นเมื่อวันศุกร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๕ พุทธศักราช ๑๘๙๓ ชีพ่อพราหมณ์
ให้ฤกษ์ตั้งพิธีกลบบัตร ได้สังข์ทักษิณาวัฏใต้ต้นหมันใบหนึ่ง
สันนิษฐานว่าได้มีการสถาปนาหลักเมืองขึ้นในคราวเดียวกัน  แต่ได้ปรักหักพังสูญไป ในคราวพุทธศักราช ๒๓๑๐
 และมิได้สถาปนาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี  
ที่ตั้งของหลักเมืองเดิมนั้น  จากหลักฐานเอกสารทางประวัติศาสตร์
และหลักฐานจากการขุดค้นทางโบราณคดีบ่งว่า ศาลหลักเมืองตั้งอยู่ใกล้กับศาลพระกาฬและสี่แยกตะแลงแกง
เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๒๕
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ดำริให้สร้างศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาขึ้นใหม่
เพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีโบราณที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา
ประวัติศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อปีพุทธศักราช  ๒๕๒๕  กรมศิลปากรเป็นผู้กำหนดภูมิสถาน 
ออกแบบ ก่อสร้าง  โดย : สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก 
(วาสน์  วาสโน)  ได้เสด็จเป็นองค์ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์  และ ฯพณฯ
พลเอกสิทธิ์  จิรโรจน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 
เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลหลักเมือง  เมื่อวันพฤหัสบดีที่  ๒๓  กันยายน  พุทธศักราช  ๒๕๒๕  เวลา  ๐๘.๕๙ 
นาฬิกา
       
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร
(รัชกาลที่ ๙) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม 
ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมองค์หลักเมือง  เมื่อวันพฤหัสบดีที่
๙  สิงหาคม  พุทธศักราช ๒๕๒๗ 
เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกา   ณ
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 
        ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประกอบพิธีเปิดอาคารศาลหลักเมือง เมื่อวันพุธที่  ๓๑ ตุลาคม  พุทธศักราช  ๒๕๒๗
ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา
ในปัจจุบันยังคงความสวยงามหลังจากได้รับการบูรณะครั้งใหญ่
สีขาวของอาคารศาลหลักเมืองที่ตั้งเด่นอยู่กลางแมกไม้เขียวที่ร่มรื่น
                 
  ความเชื่อในสมัยก่อนนั้น
นิยมสร้างศาลหลักเมืองขึ้นเพื่อจุดประสงค์คือ เป็นที่รวมตัวประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
เพื่อเป็นมิ่งขวัญ นิมิตมงคลแก่ประชาชน
และเป็นสัญลักษณ์และเป็นจุดหลักบ้านหลักเมือง บ้านเมืองนั้นย่อมร่มเย็นเป็นสุข
หลักเมืองต้องฝังไว้ในย่านกลางเมือง หรือในทำเลที่เป็นชัยภูมิ ตามทิศทางของเมือง
และในสมัยโบราณนั้นเมืองเอกหรือเมืองชั้นราชธานี ย่อมมีฝังหลักเมืองไว้เป็นนิมิตมงคลสำหรับเมืองทุกเมือง 
 
  เสาหลักเมืององค์จริง
สูงจากพื้นดินอาคารชั้นล่าง ขึ้นไปสู่ยอดพระปรางค์ด้านบน
ไม่อนุญาตให้ปิดทอง
ผูกผ้าแพร
                            เสาหลักเมืองจำลอง ที่อนุญาตให้ปิดทอง
ผูกผ้าแพร ๓ สีได้ 
กล่าวคำขอขมากรรม -
คำบูชาองค์พระหลักเมือง
ตามป้ายที่มีไว้ทุกด้านของศาลหลักเมือง
![]()  | 
ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา  
ในปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   
 | 

















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น