ศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ณ
วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี Pathumthani (Lamlukka) City
Pillar Shrine
ปัจจุบันตั้งอยู่ที่
: บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอลำลูกกา หมู่ที่ ๒๑ ตำบลลาดสวายคลองสี่ อำเภอลำลูกกา
จังหวัดปทุมธานี
ภายในมณฑปประดิษฐานเสาหลักเมือง
ซึ่งมีลักษณะเป็นเสากลม ทำจากไม้ชัยพฤกษ์ ฐานแกะสลักเป็นดอกบัวรองรับ
หัวเสาแกะเป็นลูกบัวแก้ว
ศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี |
ศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีบริเวณโดยรอบมีรั้วล้อมรอบและยกพื้นสูงปูกระเบื้อง |
เสาหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ทำจากไม้มงคลเป็นไม้ชัยพฤกษ์ |
ป้ายคาถาบูชาองค์พระหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี |
เชิงเทียนรูปเรือสุพรรณหงส์ |
ฝ้าเพดานภายในศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี |
หน้าบันศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นรูปปูนปั้นวิถีชีวิตของชาวลำลูกกาเกี่ยวกับการทำนา ลุ่มน้ำ และนกกา |
ความเป็นมาของศาลหลักเมืองปทุมธานี : สืบเนื่องจากการสร้างศาลหลักเมืองจังหวัดปทุมธานี
โดยนายสุธี โอบอ้อม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีตั้งแต่วันที่
๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ – ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๑) ดำริเห็นเป็นสำคัญว่า
ควรจะสร้างศาลหลักเมืองไว้ให้มั่นคง
เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวปทุมธานี
พร้อมทั้งให้เกิดความรักสามัคคีกันให้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังนำความสงบสุข ร่มเย็น
มาสู่เมืองด้วยความดำรินี้จึงเห็นพ้องต้องกันระหว่างข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้า
และประชาชน ได้ร่วมกันสละทรัพย์คนละเล็กละน้อย ดำเนินการสร้างศาลหลักเมืองขึ้น
ในการนี้ทางกรมศิลปากรได้เป็นผู้ออกแบบประดิษฐ์ตัวเสาศาลหลักเมือง
ซึ่งทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ที่ทางกรมป่าไม้ได้นำมาจากสวนป่าลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
มอบให้ดำเนินการสร้างศาลหลักเมืองปทุมธานี เริ่มทำพิธีสะเดาะพื้นที่ที่จะสร้างศาลหลักเมือง
เพื่อความสวัสดีมงคลเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๙ วางศิลาฤกษ์หลักเมืองปทุมธานี วันจันทร์ที่ ๓
มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ตรงกับเวลา ๑๕.๐๐ น. เดือนยี่ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีมะโรง
กรมศิลปากรออกแบบประดิษฐ์ตัวเสาหลักเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ได้นำเข้าพระตำหนักสวนจิตรลดา เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร (รัชการที่ ๙)
ทรงเจิมเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ เวลาฤกษ์ ๐๘.๒๙ น. และในคืนนี้เวลาประมาณ ๕ ทุ่ม (๒๓.๐๐ น.) ได้เกิดจันทรคลาสจับครึ่งดวงเป็นที่อัศจรรย์
พิธียกเสาหลักเมืองปทุมธานี วันพุธที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๑
ศาลหลักเมืองปทุมธานีจึงตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่หน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี
ส่วนไม้ชัยพฤกษ์จากสวนป่าลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เป็นไม้มงคลอย่างยิ่ง
ได้รับการคัดเลือกสายพันธุ์อย่างดี ลำต้นใหญ่
เมื่อกรมศิลปากรออกแบบประดิษฐ์ตัวเสาหลักเมืองปทุมธานีแล้ว
ยังมีส่วนเหลือของลำต้นที่สวยงามของไม้ชัยพฤกษ์ คณะกรรมการดำเนินงานจึงดำริจัดสร้างเสาหลักเมืองอีกสี่มุมเมือง
เสาหลักเมืองทุกมุมทิศของจังหวัดปทุมธานี
ในการนี้จึงได้กำหนดให้
ความเป็นมาของอำเภอลำลูกกา
อำเภอลำลูกกาในสมัยก่อนเป็นที่ราบลุ่มเต็มไปด้วยป่าพงป่าอ้อ
เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าทั่วไป สภาพของพื้นที่เป็นที่รกร้างกว้างใหญ่
มีชื่อเรียกว่า “ทุ่งหลวง” ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ ๕) ประมาณปี พุทธศักราช ๒๔๓๓
พระองค์ทรงเห็นว่าทุ่งหลวงกว้างใหญ่ไพศาลมาก
ควรให้ประชาชนเข้ามาอยู่เป็นที่พักอาศัย ทำมาหากิน ประกอบกับมีพระราชดำริว่า
กรุงสยาม คลองเป็นสำคัญ สมควรต้องขุดทุกปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้บริษัทขุดคลองแลคูนาสยาม ดำเนินการขุดคลองหกวา เริ่มจากคลองซอยที่ ๒
ไปจนถึงอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทาง ๙๐๐ เส้นเศษ
และขุดคลองซอยที่เป็นระยะห่างกัน ๖๐ เส้น จำนวน ๑๖ คลอง ผลจากการขุดคลองนี้ทำให้ประชาชนที่อยู่ในถิ่นกันดารต่างอพยพหลั่งไหลเข้ามาอาศัยอยู่และทำการเพราะปลูกมากยิ่งขึ้น
สำหรับชื่ออำเภอลำลูกกาตามประวัตินี้บอกว่า
แต่เดิมนั้นในท้องที่อำเภอนี้มีลำธารไหลผ่านมาบรรจบเป็นรูปตีนกา และปรากฏว่ามีนกเข้ามาอาศัยทำรังเป็นจำนวนมาก
เพราะพื้นที่อำเภอนี้เป็นจุดรวมของแม่น้ำลำธารนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้ง
ปลาอาหารของสัตว์นานาชนิด ประชาชนจึงเรียกบึงนี้ว่า “บึงลำลูกกา”
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เมื่อทางราชการได้ตั้งอำเภอขึ้นใกล้กับบึงนี้เมื่อประมาณ พุทธศักราช ๒๔๔๗ จึงขนานนามว่า “อำเภอลำลูกกา”
ด้วยสันนิษฐานว่าเป็นเพราะนิยมใช้คำสั้นๆ
ศาลหลักเมืองอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีเป็นศาลหลักเมืองมุมเมืองด้านทิศใต้ของจังหวัด ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ : บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอลำลูกกา หมู่ที่ ๒๑ ตำบลลาดสวายคลองสี่ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น