กราบสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
บริเวณศาลหลักเมือง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้ว เดินข้ามถนนฝั่งตรงข้ามก็ถึงแล้วบูชาสักการะองค์พระหลักเมือง การไหว้ที่นี่นั้นต้องไหว้ถึง ๕ จุด ด้วยกัน โดยเรียงตามลำดับกันไป ดังนั้นเลยนำวิธีการไหว้ศาลหลักเมืองมาฝากค่ะ
ลำดับขั้นตอนการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง
จุดที่ ๑. หอพระพุทธรูป
* กราบไหว้องค์พระพุทธรูป ถวายดอกบัว
* ใส่บาตรพระประจำวันเกิด
จุดที่ ๒. องค์พระหลักเมืองจำลอง
* จุดธูป เทียน ปิดทอง ผูกผ้าแพรสี ๓ สี
จุดที่ ๓. องค์พระหลักเมืององค์จริง
* กราบไหว้องค์พระหลักเมืองจริงถวายพวงมาลัย ๑ พวง
จุดที่ ๔. หอองค์เทพารักษ์ทั้ง ๕
* กราบไหว้ถวายพวงมาลัย ๕ พวง
จุดที่ ๕. เติมน้ำมันตะเกียง พระประจำวันเกิด
* เติมน้ำมันตะเกียง พระประจำวันเกิด
* เติมน้ำมันตะเกียง สะเดาะเคราะห์
ก้าวแรกมาถึงก็คงต้องมองหาจุดจำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน ก่อนเลยค่ะ ที่บริเวณทางเข้าศาลหลักเมืองก็จะเห็นป้ายบอกว่ามีดอกไม้จำหน่ายภายในศาลหลักเมือง และมีเวลาบอกว่า ศาลหลักเมือง เปิดเวลา 06.30 น. และปิดเวลา 18.30 น.
เดินตรงเข้าไปภายในศาลบริเวณกลางทาง ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่มีศาลากราบองค์พระหลักเมืองจำลอง จะเห็นจุดจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าแพร และน้ำมันตะเกียง โดยมีสำนักงานกิจการศาลหลักเมือง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นผู้ดูแล
ราคาเครื่องสักการะก็ไม่แพงค่ะ มีราคาบอกไว้ชัดเจน
ถ้าเอาทั้งชุดเลย ทางเจ้าหน้าที่เค้าก็จัดไว้ใส่ถาด ชุดละ ๖๐ บาทเองค่ะ ก็จะประกอบด้วย ผ้าแพร ๓ สี - น้ำมันตะเกียง ๑ ขวด - ดอกบัว ๑ ดอก - -พวงมาลัยดอกดาวเรือง ๑ พวง - ธูปเทียนและทองคำเปลว ๑ ชุด
ได้ครบแล้ว ก็เดินไปทางเหนือเลยค่ะ ไปกราบพระที่หอพระพุทธรูปก่อนเลย จุดนี้ให้ถวายดอกบัวเท่านั้น เอาดอกบัววางบนพานได้เลยค่ะ สวดมนต์ไหว้พระตามอัธยาศัยเลย
ทางขวามือจะมีพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าให้กราบสักการะด้วยเช่นกันค่ะ
เมื่อมองไปทางขวามือก็ทำบุญตักบาตรใส่เหรียญลงในบาตรพระ ให้ตรงกับพระประจำวันเกิดของเรา
ขยับมาซ้ายนิดหนึ่งจะมีองค์พระพุทธรูปเสี่ยงทาย ให้อธิษฐานจิตตั้งสมาธิถามเรื่องที่อยากทราบได้ ๑ เรื่องนะค่ะ (ขอบอกว่าท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ค่ะ)
วิธีอธิษฐานยกองค์พระเสี่ยงทายความสำเร็จ
การยกองค์พระเสี่ยงทาย
* ผู้ชาย : นั่งขัดสมาธิ มือจับฐานพระทั้ง ๒ ข้าง
* ผู้หญิง : นั่งพับเพียบ มือซ้ายจับฐานพระ มือขวาจับไหล่พระ
แล้วตั้งจิตอธิษฐานให้เป็นสมาธิ กล่าวนะโม ๓ จบ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง ขอพรให้การยกพระเสี่ยงทายในครั้งนี้ : จงสัมฤทธิ์ผลประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้
ยกครั้งที่ ๑ : (*เรื่องที่อธิษฐานถาม*) ถ้าประสบความสำเร็จขอให้ยกองค์พระนี้ขึ้น
ยกครั้งที่ ๒ : (*อธิษฐานถามซ้ำเรื่องเดิม*) ถ้าประสบความสำเร็จขอให้ยกองค์พระนี้ไม่ขึ้น ถ้าเป็นไปตามนี้แสดงว่าเรื่องที่ต้องการทราบประสบความสำเร็จ
ตามคุณสมบัติของพระพุทธรูปเสี่ยงทายนี้ : ท่านสามารถอธิษฐานถามได้ในทุกเรื่องทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ธุรกิจการงาน เคราะห์และโชคลาภ หรือเรื่องอื่นๆ ที่ท่านปรารถนาจะถาม
เดินลงมาข้างล่าง กราบสักการะองค์พระหลักเมืองจำลอง จุดธูป เทียน ปิดทอง ผูกผ้าแพรสี ๓ สี ณ จุดนี้ได้เลยค่ะ
บริเวณจุดนี้เราก็จุดเทียน ปักธูปในกระถาง และปิดทองที่องค์พระเลยค่ะ เพราะภายในศาลหลักเมืององค์จริง เค้าห้ามจุดธูป จุดเทียน และปิดทองค่ะ
คำกล่าวบูชาสักการะองค์พระหลักเมือง
เสร็จแล้วเดินเข้าไปในศาลหลักเมือง เพื่อกราบสักการะองค์พระหลักเมืององค์จริง จุดนี้วางถวายพวงมาลัย ๑ พวงบนพานค่ะ
ออกจากศาลหลักเมือง ประตูทิศตะวันออก จะเห็นหอองค์เทพารักษ์ทั้ง ๕ คือ พระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี, เจ้าเจตคุปต์ และเจ้าหอกลอง ให้ขึ้นไปกราบสักการะและถวายพวงมาลัย ๕ พวงวางบนพานที่ทางเจ้าหน้าที่เค้าจัดไว้ให้ค่ะ
แล้วไปเติมน้ำมันตะเกียง พระประจำวันเกิด
* เติมน้ำมันตะเกียง พระประจำวันเกิด
* เติมน้ำมันตะเกียง สะเดาะเคราะห์
- - มีป้ายเขียนไว้ชัดเจนเลยค่ะว่า "กรุณาเติมน้ำมันเฉพาะวันเกิดของท่านเท่านั้น"
เทน้ำมันสักครึ่งขวดก็ได้ค่ะ แล้วอีกครึ่งขวดก็นำไปเทใส่ตะเกียงสะเดาะเคราะห์ค่ะ
ส่งท้ายในจุดอื่นๆ
กราบสักการะพระพุทธรูปจำลององค์หลวงพ่อโสธร
กราบสักการะพระพิฆเนศวร
กราบสักการะและปิดทององค์พระสยามเทวาธิราช : เจว็ดไม้แกะสลัก จำหลักรูปเทวดายืน พระกรขวาถือจักร พระกรซ้ายถือพระขันธ์ มีซุ้มประกอบตกแต่งด้วยลายพุดตานใบเทศ (ขนาดกว้าง ๖๕ เซนติเมตร สูง ๑๗๐ เซนติเมตร) ซึ่งสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๔ (ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรโมรุราชามหาจักรีบรมนารถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก - รัชกาลที่ ๑)
กราบสักการะพระคลังมหาสมบัติ : เจว็ดไม้แกะสลัก จำหลักรูปเทวดายืน พระกรขวาถือดอกบัว พระกรซ้ายถือพระขันธ์ (ขนาดกว้าง ๓๖.๕ เซนติเมตร สูง ๕๓ เซนติเมตร) ซึ่งสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๔ (ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรโมรุราชามหาจักรีบรมนารถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก - รัชกาลที่ ๑)
บานประตูและกรอบประตูศาลหลักเมืองโบราณ ใช้วัสดุไม้สัก มีลักษณะเป็นบานประตูไทยแบบบานคู่ มีอกเลา ทาสีแดงชาด ขนาดกว้าง ๑๔๑ เซนติเมตร สูง ๒๓๑ เซนติเมตร , กว้าง ๑๓๑ เซนติเมตร สูง ๒๑๘ เซนติเมตร , กว้าง ๑๖๒ เซนติเมตร สูง ๒๑๘ เซนติเมตร อายุราวสมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช ๒๓๙๕
ตามประวัติแล้วสันนิษฐานว่าเป็นบานประตูของอาคารศาลหลักเมืองที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานเสาหลักเมืองใหม่และหลักเมืองเดิมที่ชำรุด เมื่อพุทธศักราช ๒๓๙๕ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๙ ได้มีการบูรณะปรับปรุงศาลหลักเมือง จึงได้รื้อบานประตูนี้ออก และนำไปเก็บรักษาไว้ที่แผนกโรงงานในอารักษ์ กองอาชีพ ฝ่ายอาชีวสงเคราะห์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ จนกระทั่งในปี พุทธศักราช ๒๕๕๘ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเห็นว่า บานประตูและกรอบประตูดังกล่าวเป็นสมบัติของศาลหลักเมือง จึงนำกลับมาเก็บรักษาไว้ที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครไว้ดังเดิม
และภายในศาลหลักเมืองยังมีตู้กระจกบรรจุไม้ขนุน ที่ใช้หนุนรองรับเสาหลักเมือง ในการประกอบพิธีเมื่อครั้งปฏิสังขรณ์ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๗
จุดนี้อยู่ด้านนอกศาลหลักเมืองทางทิศตะวันตก จะมีอ่างน้ำพระพุทธมนต์ ให้ท่านสามารถนำกลับบ้านได้ด้วย
ด้านตรงข้ามกับหอพระพุทธรูป จะมีโรงละครประจำศาลหลักเมือง ซึ่งจะเปิดให้ชมละครรำถวายองค์พระหลักเมือง(..ชมฟรี..) เปิดแสดงวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-15.30 น. และวันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ส่วนเรื่องที่จะแสดงก็สามารถอ่านดูได้ที่กระดานดำภายในโรงละครค่ะ ว่าวันนี้มีคณะอะไรมาแสดง ใครเป็นเจ้าภาพ และจะแสดงเรื่องอะไร
อธิบายเป็นลำดับขั้นตอน เข้าใจง่ายดีค่ะ ชอบๆ ขอบคุณนะค่ะ
ตอบลบ